2009-06-12

เรียน...ซัมเมอร์...

เด็ก ๆ ปิดเทอมกันแล้ว แต่เราต้องเรียนซัมเมอร์ต่อ...เลยไม่ได้ไปไหนเลย จบไปอีกวิชาแล้วละ เหลืออีกสองวิชาสำหรับซัมเมอร์ สนุกดีเหมือนกันการเรียน ไม่เครียดอะไรมาก ทุกอย่างเหมือนกับการพักผ่อน เรายอมให้พระเจ้านำเราอย่าง คอยเงียบฟังเสียงพระองค์ว่าจะนำไปทางไหน และให้ทำอะไร แล้วเราคงจะได้ยินเสียงนั้น ไม่ว่าจะผ่านมาทางไหนก็ตาม เริ่มเดือนใหม่มาแล้วเกือบจะครึ่งเดือนแล้วสินะ เวลาช่างรวดเร็วเสียนี่กระไร...

2009-05-30

เกือบปีแล้วสินะที่ย้ายมาอยู่มวกเหล็ก

...เป็นระยะเวลาเกือบ หนึ่งปีแล้วที่เราและครอบครัวย้ายมาอยู่ที่มวกเหล็ก เป็นประสบการณ์ที่ดี เราทุกคนมีความสุขกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่นี่เราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่เราก็รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้มันให้ความสุข ของวันนี้กับครอบครัวและก็ทุกคนในครอบครัว แล้วจะมีอะไรที่จะต้องดิ้นรนมากว่าไปกว่านี้อีกละ...ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่าง ขอบคุณความเป็นไปของชีวิต.. ขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ทรงนำชีวิต...

2009-05-04

ไปปากชม...

หลังจากเสร็จจากการเปิดประชุมที่ศูนย์ภาษา มวกเหล็ก ทุกเย็นวันจันทร์-ศุกร์ วันเสาร์ที่ 2 พค. ก็เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งคือเป็นวันคล้ายเกิดของแม่ และวันนี้เองก็จะเป็นวันที่เราได้ทำอะไรพิเศษ ๆ เพื่อคุณแม่ ปีนี้เช่นกันเราเทศนาที่โบสถ์ เพื่อเป็นของขวัญให้แม่หากแต่ว่าปีนี้ต่างจากทุกปี เพราะว่าแม่ไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกแล้ว ท่านจากไปแล้ว...
ตอนบ่ายวันเสาร์เอง เราและครอบครัวตัดสินใจไปร่วมงานที่ปากชม เลย.. ขับรถไปเหนื่อยเหมือนกัน ออกจากมวกเหล็ก เกือบ หกโมงเย็น หลังจากเสร็จงานทุกอย่างแล้ว กว่าจะไปถึงก็ตีสอง กว่า...

2009-04-23

และแก้วก็มาถึงวันนั้น...

...แม่ไม่สบายมากนอนอยู่ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2552 นี่เป็นการกลับมาครั้งที่สอง หลังจากกลับไปอยู่บ้านได้แค่อาทิตย์เดียว มาครั้งนี้ดูเหมือนกับแม่จะเหนื่อยกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เราทุกคนผัดเปลี่ยนกันเฝ้าแม่ แต่ละคืนของการเฝ้า เราได้เห็นคนไข้ ที่อยู่เตียงรอบข้าง สิ้นลมหายใจไปทุกคืน ได้แต่คิดในใจว่าสักวันก็คงไม่พ้นแม่เราแน่ และแล้ววันนั้นก็มาถึงจริง ๆ คืนวันที่ 15 เมษายน 2552 ประมาณเทียงคืน(เช้าตรู่ของวันที่ 16 เมษายน) แม่ถ่ายออกมามากผิดปกติ ซึ่งแต่ละครั้งจะต้องใช้ยาสวนอุจจาระถึงจะออก แต่คืนนี้แม่ถ่ายเอง และก็เยอะด้วย เช้าวันนี้แม่ได้แต่นอน ไม่ขอโน่น ขอนี่ เหมือนทุกวัน ได้แต่นอนหลับตา ถามก็ไม่ตอบอะไร ซึ่งปกติ ท่านจะตอบและพยักหน้าเพื่อบอกคำตอบว่าต้องการอะไร... พักเทียง น้องสาวมาเปลี่ยน เราจะกลับไปกินข้าวเที่ยง หิวมากเลยแวะกินข้าว ข้างทางระหว่างทางกลับบ้าน กินได้ไม่ทันอื่มน้องสาวโทรมา บอกว่าแม่อาการไม่ค่อยดี ชีพจรต่ำมาก เราก็สังเกตเห็นเหมือนกันก่อนออกมา เรากลับมาดู และก็ได้แต่อธิษฐานว่าถ้าแม่จะไปจริง ๆ ก็อย่าให้ท่านได้เจ็บปวดทรมาน และได้อธิษฐานขอยกความผิดทั้งหมดที่แม่ได้ทำ และให้พระเจ้ารับแม่ไว้ในอ้อมแขนด้วย ดูเหมือนแม่จะรับรู้ เพราะท่านไม่ทุรนทุรายอะไรเลย... ยังคงนอนเหมือนอมยิ้ม... แล้วเราก็กลับบ้านให้น้องสาวเฝ้าต่อ ประมาณ บ่ายสี่โมง และแล้วก็ถึงเวลานั้นจริง ๆ น้องสาวโทรมาบอกว่า แม่สิ้นใจแล้ว... เราไม่รู้ว่าจะเสียใจ หรือดีใจกับข่าวนี้ดี เพราะเห็นท่านทรมารมากจากการเจ็บป่วยของท่าน เมื่อท่านสิ้นใจอย่างสงบ ก็เหมือนกับว่าท่านไม่ต้องทุกข์ทรมารอีกต่อไป...แต่เราก็จะต้องสูญเสียแม่ไปตลอดชีวิต...
...งานศพแม่จัดขึ้น 3 วัน คือวันที่ 17-19 และฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 20 เมษายน เราไม่ได้อยู่ร่วมเก็บกระดูกในวันที่ 22 เพราะต้องกลับมาก่อน ลูก ๆ ต้องเรียนหนังสือ ...

2009-04-16

ลมหายใจสุดท้ายของแม่...

ไม่ว่าใครทุกคนก็ต้องเจอ ตราบใดที่เรายังเป็นคนบาป และเป็นทาสของบาป เพียงรอคอยความหวังจากองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเป็นผู้ถือกุญแจมาปลดปล่อยเราให้ได้ชีวิตใหม่ อีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณที่ได้เกิดมาเป็นลูกของแม่ ผมได้ทำดีที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่สามารถทึ่จะอำนาจอะไรไปต่อรองกับความตายได้... เราทุกคนก็เหมือนกันอย่าให้เราได้ท้อถอยที่จะรักษาความหวังใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
เพราะ "ศัตรูตัวสุดท้ายที่พระองค์จะทรงทำลายนั้นก็คือความตาย" ๑ โครินทร์ ๑๕.๒๖

2009-04-02

ย้ายอีกแล้ว...

เริ่มทะยอยย้ายของบางอย่างเข้ามาในพอพัก ว.มวกเหล็ก ย้ายไม่มีที่สิ้นสุด ฮ่า.. สนุกดีเนอะ ชีวิตเรา
เริ่มเดือนใหม่อีกแล้ว เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน เดือนนี้วันหยุดเยอะมาก และเป็นเดือนเทศกาลสงกรานต์ด้วย
ไม่รู้ว่าจะได้ไปเที่ยวไหนหรือเปล่า แม่ก็ไม่สบายอยู่โรงพยาบาล ใจจริงแล้ว อยากจะไปเยี่ยมแม่ช่วงวันหยุด แต่ก็ไม่รู้ว่า
จะไปได้หรือเปล่า เพราะต้องดูแลการนมัสการที่เปิดใหม่ มวกเหล็กด้วย ให้พระเจ้านำก็แล้วกัน เพราะว่าเราคงควบคุมอะไร
ไม่ได้...

2009-03-29

Power of prayer...

.... is coming soon

Moving house is in my thinking...

Since, I have been approved to move inside the MC-campus, but I am still thinking i would move or not. Some of my friend said it is good to live inside the MC-campus. My children didn't agree to move they liked this place and didn't want to move. I tried to explain them why we have to move, but they didn't unsderstand. Anyway I still have time until the end of this month(March) or until on 15th of next month(Aprl 15) we will make final decision.
...I started church planting in Muaklek. Pr. Ryan was asked me to be the leader. It was nice at the first time of Thai culture worship. We had 14 members came and joined the worship....

2009-02-16

Move again...

My children try to ask me question why we have to move our house again. I just replied them just for saving money because we now both mom and dad are not working we don't have enough money to pay alot for house rental each month if anyway we can save we should do that way. Finally they understood, but still have some confused I know this because they gave some more comment that "Dad I think we will not stay in this house not so long I think we will move again" I didn't reply anything just smiled.

The weather come back to alittle bit cold again in the moring. FOr me I think it is good.

...

2009-02-11

เผลอแป๊บเดียว ปีใหม่ก็ผ่านไปถึงกุมภาฯ แล้ว...เฮ้อ

เผลอแป๊บเดียว ปีใหม่ก็ผ่านไปถึงกุมภาฯ แล้ว...เฮ้อ อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก จะวันอะไรก็แล้วแต่มันไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่าวันอื่น ๆ เพราะสำหรับเราแล้วทุกวันก็สำคัญเท่ากันหมด เพียงแต่ว่าใครจะรู้ค่าของแต่ละวันมากแค่ไหน...

2009-01-06

และแล้ว ปีเก่าก็ผ่านไปอีกปีหนึ่ง...ลาที 2551

ไม่น่าเชื่อว่าปี 2008 จะผ่านไปเร็วมาก เร็วจนเรายังจำเหตุทั้งหมดขอปีนี้ได้ แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยสำหรับปีนี้ แต่ก็เป็นปีหนึ่งที่ได้รับประสบการณ์อะไรหลายอย่าง และจะกลายเป็นประสบการณ์ที่ดี ปีนี้ไม่มีโอกาสกลับไปอยู่ร่วมกับครอบครัวอีกตามเคย ครอบครัวเราออกจากมวกเหล็กมาตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม เพื่อจะไปเลี้ยงส่ง ศาสนาจารย์ประจำโบสถ์ที่จะกลับไปบ้านของเขาที่เมกา...และก็อยู่ที่ รพ. มิชชั่นตั้งหลาย สิงอยู่ที่บ้าน เพื่อนสนิท ที่ รพ. อยู่นานหลายวัน จนเกิดเรื่องจนได้ แฮ่ะ... เด็ก ๆ เมื่ออยู่ร่วมกันสนุกสนาน เล่นกันเพลินไปหน่อย จนทำให้รบกวน เพือนที่อยู่ห้องด้านล่าง แต่ก็ไม่เป็นไรนะ...

และยังได้มีโอกาสได้ไปช่วยจัดงานคริสต์มาสช่วย อ.ฉะลิ้ม ที่บางกอกน้อยด้วย สงสารเหมือนกัน ไม่มีใครช่วยเลย ก็จัดกันไปตามมีตามเกิด ศาสนาจารย์ เป็นผู้นำอาหารที่ช่วยมื้อกลางวัน จัดกิจกรรม เล่นเกมส์ อะไรกันพอหอมปากหอมคอ เด็ก ๆ ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน... กลับมามวกเหล็กอีกที ก็วันที่ 30 ธค. ล่ะ....

นอนที่บ้านได้คืนเดียว เอง เพื่อนก็โทรมาชวนไปกินเลี้ยงปีใหม่ที่บ้านเขาอีก ตอนแรก กะว่าจะไม่ไป เพราะเหนือย อยากจะพักผ่อน นอนอยู่ที่บ้าน ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สบาย ๆ แต่ก็ใจอ่อน ท้ายที่สุดก็ต้องหอบ เสื้อผ้ากระเป๋า พะรุงพะรัง ออกจากบ้านไปอีก ทั้งที่พึ่งกลับมาจาก ก่ทม. เมื่อวานนี้เอง... จะไปบ้าน น้องยุ้ย...ต่อ...เห็นบอกว่าคืนนี้จะเลี้ยงปีใหม่ และถือโอกาสเลี้ยงส่ง ศาสนาจารย์ประจำโบสถ์ด้วยเช่นกัน คืนนี้ก็สนุกสนานกันพอสมควร อะไรที่ไม่เคยทำก็ได้ทำ อะไรที่ใครเคยอัดอั้นตันใจ หรือ อึดอัดก็ได้ถูกปลอปล่อย ออกมา เช้าวันที่ 1 มค.52 ออกเดินทางไปกาญจฯ บ้านป้าสมเกียรติ ถือเป้าหมายต่อไป...มาถึง เราประเดิมด้วยการกางเต้นท์ เพื่อจะนอนคืนนี้กัน...อากาศดีมาก ไม่หนาวมาก และก็ไม่ร้อน.. เจ้าของบ้านคือป้าสมเกียรติ ดีใจที่เรามาเยี่ยมกัน จัดเตรียมอาหารต้อนรับอย่างกับโรงแรมห้าดาวเลยทีเดียว...คืนนั้นหลังจากรับประทานมื้อเย็นกันแล้วเด้ก ๆ ก็ได้สนุกสนานรอบกองไฟกัน ก็เป็นประสบการณ์ดี ๆ สำหรับเด็ก ๆ อีกครั้งหนึ่งที่พวกเขาจะได้สนุกสนานและมีความทรงจำที่ดี สำหรับเก่า และต้อนรับปีใหม่ ขอบคุณป้าสมเกียรติ ลุงมนตรี ที่ทำบ้านไว้อย่างหรู...ทำให้เด็ก ๆ ได้สนุกสนานกัน

2008-12-13

"ร่วมแดนมัธยม เราเคยอยู่เรียงเคียงคู่...,

...จิตใจอดสูเมื่อเราจำพรากจากไกล เคยรักเคยร่วมสุขสมฤทัย จากไปดวงใจยังฝันละเมอ ได้กิน ได้เล่น ได้เรียน เจอะกันเช้าค่ำ ต้องมาจำพราก จากไกล ดวงใจ อาวรณ์ เพียงหวังไมตรี เปี่ยมล้นคำพร ให้เธอจากจร ไปดี...จำลา จำร้าง จำจร ลาไกล ด้วยจิตห่วงใย ใฝ่ฝัน ขอให้บทเพลงเป็นเครื่องเตือนกัน จากไปยังฝันละเมอ จิตใจของเราหวังเพียงได้พบกันใหม่..., " เสียงเพลง ยังก้องอยู่ในหู เมื่อได้กลับมาเยี่ยมโรงเรียนเก่า เสียงเพลงเมื่อเกือบยี่สิบปี ยังคงดังอยู่ชัดเจน ไม่น่าเชื่อว่าเวลาจะผ่านไปรวดเร็วขนาดนั้น ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหน ความห่วงใย มิตรภาพที่ดีก็ยังคงมีต่อกันเรื่อยไป ตราบเท่าที่เรายังมีชีวิตอยู่ ช่วงต้นเดือนธันวาคมได้มีโอกาสไปเยี่ยมครอบครับของ อ.พะดา และแพรว ที่เชียงใหม่ รู้สุกสนุก และรำลึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ ในอดีตที่ผ่านมาแล้วเกือบ ยี่สิบปี ไม่น่าเชื่อว่าเวลามันจะผ่านไปรวดเร็วแบบนั้นเวลาเดินไปทุกวัน ไม่ว่าแดดจะออก ฝนจะตก มันไม่เคยหยุดนิ่ง ไม่มีใครหยุดยั้งมันได้ กาลเวลาได้สะสมประสบการณ์ที่ดี ๆ ระหว่างเพื่อน และทุกคนที่เราได้พบเจอ สิ่งที่ดีที่สุด ก็คือเก็บมันไว้ในความทรงจำ และจำไว้ สำหรับวันเวลาที่ดี