2008-01-15

อะไร ๆ เกี่ยวกับ "ครูอาสารุ่นพิเศษ 11-13 มค. 51"

เย็นวันที่ 10 มค. 50 เรารีบเดินทางไปหมอชิตเพื่อจะเดินทางต่อไปที่เชียงรายเพื่อร่วมโครงการ "ครูอาสารุ่นพิเศษ 11-13 มค. 51" ที่ "มูลนิธิกระจกเงา" เห็นบอกว่าเค้าจัดทุกปี รูปแบบจะเป็นการจัดงานวันเด็กให้กับเด็กที่อยู่ในแถบหุบเขาแถวนั้นซึ่งมีระยะการเดินทางตั้งแต่ ไม่กี่ กม.ถึง หลายสิบ กม. จากหมู่บ้านถึง ที่ตั้งมูลนิธิกระจกเงา ครั้งนี้มีนักศึกษาพยาบาลที่อาสาเป็นหน่วยกล้าตายไปด้วย 2 คน(ก้อย,ทับทิม) แล้วเราก็เริ่มออกเดินทางด้วยบริการ"สมบัติทัวร์" เที่ยวเวลา 19.50 น. เรานั่งรถไฟฟ้า แล้วต่อด้วย มอ'ไซค์ เกือบไม่ทันแน่ะ...และแล้วเราก็มาถึงสถานีขนส่งเชียงรายจนได้ เจอเพื่อนร่วมเดินทางคนแรก (คิดเดาเอาเอง เลยให้ทิมถามดูใช่จริง ๆ ด้วยเพราะดูการหอบข้าวของเหมือนกับคนบ้าเลย(โยโย่) บ้าทำความดีน่ะ... แล้วเราก็พากันไปรอที่บ้างป้อม สห. ตามที่ได้รับการบอกกล่าวไว้ สาย ๆ ครูจะเด็ดก็มารับให้ขึ้นรถสองแถวเพื่อเข้ามูลนิธิ พอมาถึงครูจะเด็ดก็ให้รวมกันที่ห้องประชุมเพื่อแนะนำมูลนิธิและโครงการต่าง ๆ ของมูลนิธิ เสร็จพาไปดูสถานที่พัก แล้วก็เริ่มจัดสถานที่สำหรับงานวันเด็กพรุ่งนี้...เสร็จแล้วก็มื้อเที่ยงด้วย...ข้าวซอยน้ำเงี้ยว...อร่อยมากตามแบบฉบับชาวเหนือ... เสร็จแล้วก็พากันจัดเตรียมของขวัญต่อจนถึงดึกเลยล่ะของขวัญเยอะจริง ๆ จนดึกได้เวลาพักผ่อนซะที แต่ก็มีบางคนแอบไปทำกองไฟเพื่อป้องย่าง(นรินทร์) เราก็ไปนั่งร่วมก๊วนนะเค้าด้วยอ่ะ...เช้าตรู่วันเสาร์ซึ่งเป็นวันเด็กพิธีเตรียมการสำหรับเด็ก และการมอบของขวัญได้เปิดขึ้นด้วยความชุลมุนวุ่นวายน่าดู กองทัพเด็กที่จะมารับของขวัญรออยู่ด้านหน้าประตูทางเข้าเป็นพัน ๆ คน

7 comments:

Wareewarach said...

เสร็จจากเหน็ดเหนื่อยกับการแจกของขวัญวันเด็ก เย็นนั้นก็มีการจัดงานให้กับครูทุกคนที่มาช่วยงาน เป็นงานเลี้ยงเล็ก ๆ อบอุ่นดี จนทำให้หลายคนก็มึนเมาจนหลับคาที่ก็มี รุ่งเช้า สรุปงานกันร่ำลาแล้วก็ออกเดินทาง ทีมงานกระจกเงายังพาเที่ยวแม่สาย, วัดร่องขุ่นอีกแนะ เรา,ก้อย,ทิม และกร ยาย จะไป ภูชี้ฟ้า ต่อมาขึ้นรถปรากฏว่ารถหมดแล้ว คันที่จะไปก็ไปไม่ถึง เลยโทรเรียกให้น้องไปส่ง น้องต้องไปส่งถึงภูชึ้ฟ้าเลย...ดีที่ยังอุตส่าห์มาจนถึงนะ

Wareewarach said...

มาถึงภูชี้ฟ้า สองทุ่มกว่าแล้ว หลังจากหาห้องพักได้แล้วก็ขึ้นไปห้องพัก ได้ข่าวว่าเมื่อเช้านี้ตีห้ากว่า มีคนตกหน้าผา ทุกคนที่มาก็ไม่เห็นมีใครที่จะผวาเลย แต่เป้าหมายก็คือพิชิต ภูชี้ฟ้าให้ได้...หลังจากซื้อข้าวปลาอาหารมากินกันภายใต้ความหนาวเย็นแล้ว เราก็เข้านอน เมื่อหัวถึงหมอนก็นอนหลับไปเลย...เป็นคืนหนึ่งที่นอนโดยที่ไม่ต้องคิดอะไรก่อนนอน..หลับสบาย พรุงนี้เช้าจะตื่นแต่เช้าไปดูทะเลหมอกกัน..

Wareewarach said...

ตื่นแต่เช้า...ก้อย รู้สึกจะตื่นตั้งแต่ตีสามนะ...เห็นบอกว่าตื่นมาอาบน้ำ เมื่อคืนไม่ได้อาบน้ำก่อนนอนละสิ เราไปนั่งรถสองแถวที่จะพาไปเสียเงินคนละ 20 บาท เป็นค่าโดยสาร รถพาไปถึงที่จุดหมาย เราต้องเดินขึ้นไปอีกคิดว่า 800 เมตร หรืออะไรประมาณนั้น เหอ...ต้องจุงยายด้วย..ทุกคนเหนื่อย หอบ แฮ่ก..ๆ เมื่อไปถึงจุดหมายรอพรอาทิตย์ขึ้น ทุกคนหายเหนื่อย สวยงามมาก ถ่ายรูปมาด้วยแหละ ดีนะ ที่เจ้ากร มาด้วย เพราะมีคนถ่ายรูปให้ไม่งั้นก็คงกร่อย พระอาทิตย์พ้นขอบฟ้าแล้ว เราพากันขึ้นไปยังส่วนที่เรียกว่า หัวสิงโต เพื่อจะไปยังจุดสูงสุด และจุดที่มีคนตกลงไปเมื่อวานไง ไปดูทะเลหมอกชัด ๆ อีกจุดหนึ่ง สวยมากครับ ขอบอก... ทุกคน บอกว่าสวยมาก

Wareewarach said...

เสร็จจากชมวิวทิวทัศน์ แล้วเราก็ลงมาจากจุดชมวิว มาถึงด้านล่างมีเด็กม้ง ขายของที่ระลึกอยู่ เด็ก ๆ ร้องตะโกนขอให้ซื้อของที่ระลึก ถ้าเด็กคนไหนไม่ได้ขายก็จะตัดพ้อคนซื้อด้วยถ้อยคำที่น่ารักว่า "ซื้อแต่ของคนอื่น ไม่กลัวคนนี้เสียใจเหรอครับ..." น่ารักดีนะ ทุกคนได้ของที่ระลึกคนละชิ้น แล้วเราก็นั่งรถกลับมาที่พัก ทะยอยกันอาบน้ำอีกครั้ง และสั่งอาหารเช้ากินกัน บางคนก็นั่งเขียน บัตรอวยพรที่เราซื้อเป็นที่ระลึก บางคนก็แอบไปหลับ เผลอไม่ได้ มีเวลาว่างเป็นหลับ(ก้อย,ทิม) ถามคนเฝ้าบ้านพักบอกว่ามีรถสองแถวลงไปเชียรงรายตลอด เราก็เลยไม่รีบกะว่าจะลงไปสักประมาณ 10 โมงเช้า...

Wareewarach said...

เก็บข้าวของสัมภาระแล้วเราก็ลงมาจะขึ้นรถเข้าเชียงรายกัน แต่ไม่มีรถแล้วจะมีอีกทีก็บ่ายสองโมง เฮ้อทำไงดีล่ะ เจ้าของณัฐพงษ์ รีสอร์ท บอกว่าจะมีรถลงไปเป็นเก๋ง เขาขอให้เติมน้ำมันอย่างเดียว 400 บาท เออ ก็ยังดีที่จะได้ลงไปไม่เสียเวลา รถวอลโว่ เริ่มพาเราลงมากัน มาถึงระหว่างทางได้ยินเสียงเสียดสีอะไรบางอย่างแล้วรถก็ดับไปเฉย ๆ หันไปมองด้านหลังเห็นน้ำหยดเป็นทาง ลงไปดูเป็นน้ำมัน ปรากฏว่าท่อสายยางที่ส่งน้ำมันรั่ว เพราะว่าตัวถังรถไปกดทับมัน...ไม่รู้ช่วยพี่เค้าอย่างไร รีบก็รีบ ๆ พอดีมีรถบิกอัพผ่านมาก็เลยขออาศัยเขาไปด้วย เอาเลยไม่ต้องเสียเงินค่าโดยสารลง เขาพามาส่งที่ อ.เทิง แล้วเราก็นั่งรถบัส ต่อเข้าเชียงราย เสียค่าโดยสารคนละ 46 บาทเอง...ดีจัง

Wareewarach said...

มาถึงเชียงราย บขส. เราจองตั๋วไปเชียงใหม่ต่อ รถออกบ่ายสองโมง เรา,ก้อย, ทิม ไปเที่ยวต่อ ถึงเชียงใหม่ก็ ห้าโมงเย็นละทำไงดีผิดแผน รีบไปจองรถเพื่อกลับ กทม. ก่อน กะว่าจะเอาเที่ยวสุดท้าย ไปดูรถไฟ มีสามทุ่ม โทรถามสมบัติทัวร์ มีสามทุ่มครึ่งเลยมาจองตั๋วสมบัติ รถที่เราเหมาพาขึ้นดอยสุเทพก็ดี ช่วยเป็นธุระให้ในการพาวิ่งเปลี่ยนตั๋ว ขึ้นเที่ยวดอยสุเทพเสร็จแล้วลงมา อยากจะเที่ยวอีก ก็เลย ไปเลื่อนตั๋วเป็นตอนเช้า เก้าโมงพรุ่งนี้ เออมันส์ดีเนอะ...เย็นนี้เราไปกินข้าวฟังเพลงที่ Good View เออบรรยากาศดีเหมือนกัน แต่ก่อนห้าทุ่ม คนขับรถคงจะหมดเวลาเหมาแล้ว เกรงใจเขา ก็เลยให้เขาพาไปหาที่พัก ได้ที่พักที่ รักไทย เกสเฮ้าส์ เก็บของเสร็จแล้วเขาพามาส่งที่ ไนท์บาร์ซ่า เราเดินเที่ยวเล่นกัน เหนื่อยก็เหนื่อย ...จนดึกไม่ไหนต่อไม่ได้แล้ว เพราะร้านคงจะเริ่มปิดกันแล้ว เกือบตีหนึ่งแล้วนิ.... เรานอนหลับ...

Wareewarach said...

ตื่นเช้าอาบน้ำทุกคนเสร็จแล้ว รีบมาที่ บขส. เพื่อกลับกรุงเทพ รถจะออกเก้าโมงเช้า แต่มาถึงก่อน ก็เลยถามว่าเที่ยวแปดโมงมีที่ว่างไหม พอดีมีที่ว่างพอดี...เราก็เลยได้ออกก่อน เป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นนะ คิดว่าเด็กสองคนที่มากะเรา คงจะตื่นเต้นดี หรือว่าเข็ดไปเลยก็ไม่รู้เหมือนกัน รถสมบัติทัวร์ บริการดีมาก แจกของตลอดทาง... เรามาถึงหมอชิต ห้าโมงเย็นแล้วก็แยกย้ายกันกลับ เรานั่งแท็กซี่มาส่งทิม ที่มิชชั่น แล้วก็นั่งเมล์ ต่อไปรถไฟฟ้า เพื่อกลับบ้าน... ขอบคุณประสบการณ์ที่ดีครั้งนี้...